เรื่องจริงของเมืองดูไบ

            แอดมินมั่นใจว่าทุกคนน่าจะเคยรู้จักประเทศที่เต็มไปด้วยความหรูหรา และในวันนี้แอดมินก็เลยจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ เรื่องจริงของเมืองดูไบ เพื่อรู้จักกับประเทศนี้ให้มากขึ้น หลังจากที่แอดมินได้พาทุกท่านไปเที่ยวประเทศพม่า พาไปดู Shwedagon มาแล้ว วันนี้แอดมินก็เลยแวะเที่ยวเอเชียตะวันตกเฉียงใต้กันบ้างค่ะ วันนี้ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่าง คาสิโนออนไลน์อันดับ1 ที่ทำให้มีบทความดีๆในวันนี้ ถ้าพร้อมแล้ว มาเที่ยวและมาทำความรู้จักกับเมืองนี้ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑

เรื่องจริงของเมืองดูไบ เมืองที่รวยที่สุดในโลก

เรื่องจริงของเมืองดูไบ
เมืองท่องเที่ยว

อย่างแรกเลยเรามาทำความรู้จักกับจุดเริ่มต้นของดูไบกันก่อนเลยนะคะ เล่าย้อนกลับไปในปี 1833 มีชนเผ่าบานียาสประมาณ 800 คน ที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ มันเป็นพื้นที่เปล่าๆ ที่เหมาะแก่การทำประมง และการทำฟาร์มไข่มุก จากนั้นพวกเค้าก็พัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางการค้าขาย จนมีพ่อค้าที่เป็นชาวอาหรับและชาวอินเดียเข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก จากนั้นเมื่อความค้าขายมีความหลากหลายมากขึ้น

เมืองท่าแห่งนี้ก็เติบโตมากขึ้นเช่นกัน แต่ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของดูไบ ก็ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 1966 เพราะว่าได้มีการค้นพบแหล่งน้ำมันดิบ เป็นกาค้นพบครั้งใหญ่ และต่อมาในปี 1971 ดูไบก็ได้รัฐอีก 6 รัฐ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม 7 รัฐชูเชี่ยล และได้รวมตัวกันก่อตั้งสหรัฐอาหรับอมิเรตส์ขึ้นมา จากนั้นในเวลาต่อมาดูไบก็ได้เอาเงิน ความมั่งคั่ง จากการที่พวกเค้าค้นพบแหล่งน้ำมัน มาใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ

จนกลายเป็นพื้นที่ที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ พวกเค้าได้มีการลงทุนในการพัฒนาในทุกๆด้านอย่างต่อเนื่อง จนเป็นเมืองที่มีแต่ความมั่งคั่งและความหรูหราอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ และด้วยความที่ประเทศนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบทะเลทราย จึงทำให้พื้นที่นี้มีแต่ความแห้งแล้ง และยังมีอุณหภูมิที่สูงเป็ยอย่างมาก โดยในแง่ของความแห้งแร้งนั้น ที่นี่ก็แทบจะไม่มีฝนตกเลย โดยดูไบนั้นมีปริมาณของน้ำฝน

อยู่เพียงแค่ 60 – 94 มิลลิเมตรต่อปีเลยล่ะค่ะ แต่ในส่วนของอุณหภูมิ เฉลี่ยประมาณ 42 องศาเซลเซียส และในบางเวลาก็อาจจะพุ่งสูงถึง 55 องศาเซลเซียสเลยล่ะค่ะ แต่ในส่วนของฤดูหนาวนั้น อุณหภูมิก็จะอยู่ที่ประมาณ 55 องศาเซลเซียส จนเรียกได้ว่าเมืองนี้น่าจะไม่ใช่สถานที่หรับคนขี้ร้อนอย่างแน่นอนค่ะ และถึงแม้ว่าเมืองนี้จะมีภาพรวมที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และความหรูหรามากมาย แต่ทางที่นี่เค้าก็ยังมีการรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ด้วยนะคะ

👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑 👑