วันนี้แอดมินจะพาทุกคนนั้นไปเที่ยวที่ SAPA ที่อยู่ในประเทศเวียดนามตอนเหนือนั้นเองค่ะ โดยที่การเดินนั้นนั้น ง่ายแสนง่าย เป็นอย่างมาก โดยที่เรานั้น ต้องนั่งเครื่องบิน ไปลงที่สนามบินฮานอยกันก่อน และนั่งรถจากฮานอยไปที่เมืองซาปาอีกที โดยที่เป็นเมือง ที่เรานั้นเสิร์ชในอินเทอร์เน็ต จะเห็นว่ามีหมอกตลอด โดยที่เมืองที่นี้นั้น มีจุดท่องเที่ยวหลายอย่าง โดยเฉพาะที่เป็นวิวภูเขา เพราะวิวภูเขาที่นี่นั้นสวยงามเอามากๆ ช่วงนี้แอดมินติดเที่ยวเดินเขานิดหน่อย อย่าเพิ่งเพิ่งกันนะคะ
SAPA VIETNAM
โดยที่นี้นะค่ะ มีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ที่เป็นภูเขาที่ใหญ่และสูงที่สุด ในแถบอินโดจีนอยู่ด้วย เรียกได้ว่า ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด และที่สำคัญ มีรถไฟต่อไปจนถึงกระเช้าขึ้นภูเขาแล้ว ไม่ต้องปืนหรือเดินขึ้นภูเขาเองให้เหนื่อยเปล่า สามารถขึ้นไปดูยอดเขาได้เลย ไม่ลำบาก ซึ่งในตอนแรกนั้นค่อนข้างที่จะลำบากเป็นอย่างมาก ก่อนที่เทคโนโลยีจะเข้าถึง ต้องใช้เวลาในการเดินทางขึ้นภูเขาลูกนี้ถึง 3 วัน แต่ปัจจุบัน ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที
โดยที่ถ้ารถไปที่ต่อไปถึงกระเช้านั้นเสีย เรามันเป็นที่จะขึ้นรถจักรยานยนต์ ไปแทน โดยที่เรานั้นสามารถต่อราคาของมอเตอไซต์ได้ เพื่อความสนุก แต่ว่าจะบอกว่า ถ้าเรากดแกปไปเอง จะได้ราคาที่ถูกมมากกว่า โดยที่ราคาขึ้นเคเบิ้ลคาต่อคน คนละ 7 แสนดอง หรือประมาณ 1 พันบาทไทย โดยที่วิวในตอนที่ขึ้นเคเบิ้ลคาร์นั้น สวยงามเป็นอย่างมาก เราจะได้เห็นทั้งน้ำตก และแปลงนาขั้นบันไดแบบเวียดนาม
โดยที่เวลาขึ้นสูงกว่าหมอกไปอีก โดยที่ยอดความสูงของภูเขาที่สูงที่สุดอยู่ 3143 เมตร โดยสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ของที่นี่คือ ทุ่งนาขั้นบันได โดยที่พวกเขายังคงทำการเพาะปลูก ไม่ว่าจะเป็นข้าวและข้าวโพด โดยที่คนแถวนั้นสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นใคร เพราะมีนักท่องเที่ยวต่อปีมาเยอะจริงๆ มากมายกายกอง
แถมผู้คนแถวนี้ยังมีการ เย็บปักถักร้อย เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ผุ้คนในเวียดนามนั้น คล้ายกับในไทย มีวิถีชีวิตที่คล้ายๆกัน เจอปัญหาคล้ายๆกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา เรื่องการไม่ได้รับการยอมรับ การท่องเที่ยวที่เขามา ทำให้พวกเขามีวิถีชีวิตที่ดูดีขึ้น มีการรักษา วิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้ และภาพธรรมชาติต่างๆ ยังคงสวยงามเสมอมา ภาพทุ่งนาขั้นบันได คือดีที่สุด สวยงามมากๆ แถมอากาศยังดี หนาวไม่ร้อนอีกด้วย ลมเย็นพัดผ่านตลอด ไม่มีแดด เดินได้เพลินๆ
สนับสนุนโดย ufa168bet