The dam that used to sink

The dam that used to sink การสร้างเขื่อนคือการสร้างลำน้ำสายใดสายหนึ่ง สร้างอ่างกักเก็บน้ำ สเหมือนเป็นการเพิ่มทะเลสาบ หรือว่าแหล่งเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในสถานที่ต่างๆ แต่การสร้างเขื่อนก้มักจะแรกมาด้วยการเสียสละของผู้คนบางส่วน เหมือนอย่างวันนี้ที่แอดมินจะพาทุกท่านไปพบเจอกับสถานที่ต่างๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำเพราะผลของการสร้างเขื่อน และเมื่อเวลาผ่านปด้วยผลของสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติทำให้สถานที่เหล่านี้ได้กลับมาอีกครั้ง จะมีที่ไหนบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

The dam that used to sink เขื่อนที่เคยจมอยู่ใต้น้ำ

1.Three Gorges Dam

The dam that used to sink
เขื่อนที่ประเทศจจีน

            เขื่อนแห่งนี้เป็นคืนแรกของประเทศจีนที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษถูกสร้างขึ้นเพื่อกั้นขวางแม่น้ำแยงซีเป็นหนึ่งในเขื่อนที่เรียกว่ามีประวัติการก่อสร้างที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยด็อกเตอร์สูนยัดเซ็นในปีพ.ศ. 2462 และได้มีมติก่อสร้างได้ในปีพ.ศ. 2535 ในสมัยนายกรัฐมนตรีหรี่เผิง

ทุกปีในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ผลิของประเทศจีน ระดับน้ำในแม่น้ำจะลดระดับลงไปอยู่ที่ 163 ถึง 168 เมตรจนปรากฏเป็นเกาะปริศนาเล็กๆ ที่มีรูปร่างคล้ายเต่าจมอยู่ใต้น้ำมาเป็นระยะเวลานานกว่า 9 เดือน

ซึ่งจะปรากฏหกคนพื้นน้ำชาวบ้านในท้องถิ่นได้เลือกกล่องแห่งนี้ว่า Spring Turtle Rising From Water ในปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงอีกด้วยค่ะ

2.Temple of Santiago

The dam that used to sink
เขื่อนที่เม็กซิโก

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศเม็กซิโก เป็นวัดที่ถูกทิ้งร้างไว้ตั้งแต่ช่วงปี 1773 ถึง 1776 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการเกิดไข้ทรพิษระบาดจากการสร้างเขื่อน ซึ่งทำให้ทางวัดนั้นจมอยู่ใต้เอาเก็บน้ำประมาณ 100 ฟุต มาตั้งแต่ปี 1960 แต่เมื่อปี 2002 เป็นครั้งแรกที่ระดับน้ำได้ลดลงจนสามารถมองเห็นพื้นของโบสถ์

ซึ่งเต็มไปด้วยโคลนที่แห้งกรัง จนสามารถเดินผ่านเข้าไปในบุญได้ และอีกครั้งในช่วงฤดูแล้งในปี 2015 ระดับน้ำได้ลดลงมามากกว่า 80 ฟุต จนสามารถเผยให้เห็นซากปรักหักพังของเมืองในยุคอาณานิคม ซึ่งเดิมเรียกว่าเขตสุล่า แต่ในครั้งที่สองนี้บทบางส่วนนั้นยังคงจมอยู่ใต้น้ำค่ะ

3.Aceredo

          หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านโบราณตั้งอยู่ในประเทศสเปนอิสบล็อกบริเวณชายแดนสเปนและโปรตุเกสซึ่งจมอยู่ใต้แม่น้ำในปี 1990 จากการสร้างเขื่อนเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำอันโตนิโอโซ่แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพพูมิอากาศฝนตกน้อยจนเกิดปัญหาประสบภัยแล้งทำให้ระดับน้ำลดต่ำลงและเผยให้เห็นซากปรักหักพังของบ้านเรือนภายในหมู่บ้านอาร์เซนอลที่ถูกทิ้งร้างใต้น้ำเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วจึงกลับมาปรากฏให้เห็นอีกครั้งนั่นเองค่ะ

🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷

แหล่งค้าประเวณีที่ใหญ่ที่สุดในโลก คลิก DAULATDIA

สนับสนุนโดย คาสิโนออนไลน์777

🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷