สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่จริงในหนังไลฟ์แอคชั่นชื่อดัง

            วันนี้แอดมินจะมาพูดถึง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่จริงในหนังไลฟ์แอคชั่นชื่อดัง อย่างเรื่อง The Little mermaid นั่นเองค่ะ บอกเลยว่าสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในอนิเมชั่นหรือว่าในหนังไลฟ์แอคชั่นส่วนใหญ่เนี่ย มักจะอยู่ในที่ที่ลึกลับและห่างไกล แต่จะรู้มั้ยคะว่าสถานที่เหลฃ่านั้นมีอยู่จริง จะมีที่ไหนบ้างเดี๋ยววันนี้แอดมินจะพาทุกท่านมาเที่ยวชมไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม  Nan Madol กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ  Betflix ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่จริงในหนังไลฟ์แอคชั่นชื่อดัง The Little mermaid

            สถานที่แรกที่แอดมินจะมาทุกท่านมาทำความรู้จักเลยก็คือ Angle Falls นั่นเองค่ะ เรื่องความที่สุดของโลกต้องยกให้สถานที่แห่งนี้ ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ประเทศเวเนซุเอลา ด้วยความสูงทั้งหมดประมาณ 979 เมตร ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำที่ยาวที่สุด ในอเมริกาใต้ บริเวณที่ตั้งน้ำตกอยู่ลึกเข้าไปในป่าฝน วิธีการเดินทางจึงจำกัดอยู่เพียงสองทางเท่านั้น

นั่นก็คือทางเครื่องบิน และทางเรือ เพราะเหตุนี้ทำให้น้ำตกแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ท้าทาย ดึงดูดคนที่รักการผจญภัยเข้ามาสัมผัสบรรยากาศซักครั้ง รวมถึงยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้นวนิยายและภาพยนตร์อนิเมชั่น เรื่องดังอย่างเรื่อง Up ปู่ซ่าบ้าพลังในปี 2009 เป็นเรื่องราวการผจญภัย ของเพื่อนซี้ต่างวัยกับบ้านประหลาดลอยได้ พวกเขาต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคมากมาย จนในที่สุดก็ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้

โดยน้ำตกที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนั้น มีชื่อว่าน้ำตกแห่งสรวงสวรรค์ ด้วยลักษณะภูมิทัศน์ อันเป็นเอกลักษณ์ที่มีน้ำตกยื่นออกมาจากหน้าผาสูง รวมทั้งพื้นที่โดยรอบ เป็นป่าดงดิบ มีทั้งสัตว์ป่าเขตร้อน และพืชหายากหลายชนิด ที่กำลังจะสูญพันธุ์อย่าง กบลูกศรพิษ เสือพูม่า คาปิบาร่า ทำให้น้ำตกแห่งนี้ ไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ความสูง แต่เป็นสถานที่อนุรักษ์พืชพรรณ สัตว์หายากอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้หนึ่งในชื่อตัวละคร

จากเรื่องยังมีส่วนในความเกี่ยวข้องกับชื่อน้ำตก เพราะน้ำตกชื่อมาจากนักผจญภัยชาวอเมริกัน นามว่าเจมส์ แองเจิล เพราะเขาเป็นคนแรก ที่ได้ค้นพบน้ำตกแห่งนี้จากการศึกษาเรื่องราว พบว่าเจมส์นำเครื่องบินลงจอดบนภูเขาได้สำเร็จ เพื่อทำการสำรวจน้ำตกแต่ เพราะเครื่องบินติดอยู่ในโคลน ไม่สามารถนำขึ้นได้ ทั้งเขาและคณะทีมสำรวจ จะต้องใช้เวลาเดินทางถึง 11 วัน เพื่อลงจากภูเขา และขอความช่วยเหลือ

โดยผู้กำกับภาพยนตร์อย่างปีเตอร์ ลงทุนลงแรงไปสัมผัสบรรยากาศจริง ทางการสำรวจพื้นที่โดยรอบเก็บข้อมูลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงานให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน ซึ่งภายหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้รับรางวัลออสก้า สองสาขา และได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่ง ในภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วยค่ะ

⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️ ⛰️