Devils Tower

          วันนี้แอดมินจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Devils Tower หรือว่าหอคอยปีศาจไปพร้อมกันค่ะ หอคอยแห่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติ ทิ้งไว้หลังเกิดเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด แล้วทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่าเป็นหอคอยปีศาจ แล้วมันมีความเป็นมาอย่างไร เดี๋ยวเรามาติดตามไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ขอฝากให้ไปติดตาม Leptis Magna กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ

Devils Tower หอคอยปีศาจเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

            หอคอยแห่งนี้เป็นแท่งหินขนาดใหญ่ที่อยู่กลางทุ่งปศุสัตว์ เหนือแม่น้ำเบลฟู้ท ในรัฐไบโอมิ่งในสหรัฐอเมริกา มีลักษณะเป็นกลุ่มแท่งหินหลายเหลี่ยมขนาดใหญ่ วัดจากฐานมีความสูง 265 เมตร ส่วนที่ฐานนั้นมีป่าปกคลุม มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 300 เมตร ขณะที่รูปทรงของที่นี่นั้นจะค่อยๆเรียวไปจนถึงยอดเลยค่ะ ซึ่งจะมีความกว้างเพียง 85 เมตร หากเรามองผ่านๆจะมีลักษณะคล้ายตอไม้ขนาดใหญ่

ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาเชื่อว่า หอคอยแห่งนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 50 ล้านปีก่อน โดยเกิดจากหินที่ละลายใต้เปลือกโลก อันเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟ และผุดขึ้นมาสู่ผิวดินเมื่อภูเขาไฟระเบิด จากนั้นกระบวนการทางธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป หินก็ค่อยๆเย็นลงและเกิดการหดตัว โดยมีกระแสลม ฝน แสงแดด ที่แผดเผาลงมาเป็นตัวเร่ง ส่งผลให้หินเกิดการแตกร้าวกลายเป็นเสาหินหลายเหลี่ยม

รูปทรงประหลาด เปรียบสเหมือนโคลนในทุ่งนาที่แห้ง และแตกระแหง แต่ก็ยังคงแฝงเอาไว้ซึ่งความงดงาม หอคอยแห่งนี้เราสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลมากถึง 160 กิโลเมตรเลยด้วยนะคะ แต่ถ้าเราไต่ขึ้นไปบนยอด ก็จะเห็นดินแดนโดยรอบของทั้ง 5 รัฐ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วยรัฐไอโอมิ่ง รัฐมนเทนน่า รัฐนอร์ทดาโคต้า รัฐเซ้าท์ดาโคต้า และเนบัสก้า จุดนี้ถือว่าเป็นที่นิยมของคนที่ชื่นชอบ

กีฬาเอ็กสตรีม ที่ต่างต้องการมาประลองความสามารถ เพื่อสร้างชื่อและชมทิวทัศน์ โดยรอบ แถมที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นหินยักษ์ที่ปีนยากมากที่สุดในโลกด้วยนะคะ และในช่วงแรกนักธรณีวิทยาเห็นพ้องกันว่า หอคอยแห่งนี้นั้นน่าจะก่อตัวขึ้นมาจากภูเขาไฟ แต่พวกเค้านั้นไม่สามารถตกลงกันได้ว่า มันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อาณาจักรนี้ครั้งนึงเคยปกคลุมไปด้วยทะเล และชั้นตระกอน

ที่เกิดขึ้นมาจากด้านล่าง และจุดที่คอยแห่งนี้อยู่ และหินหนืดที่หลอมละลายและแทรกซึมเข้าไปในหินตระกอน จากส่วนลึกของเปลือกโลก เมื่อแยกหินทราย หินดินดาน และหินปูนที่ก้นทะเลออก ปรากฏว่า หินหนืดแข็งตัวก่อนที่จะถึงผิวน้ำ ก่อนที่จะกลายมาเป็นหินบะซ้อลที่เรียงกันเป็นแนว ต่อเมื่อเมื่อแห้ง ลมฝนก็เริ่มทำลายตระกอนที่นิ่มกว่า ประกอบกับปริมาณภูเขาไฟที่แข็งขึ้นนั่นเองค่ะ

🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰