Gobekli tepe เราอาจจะเคยเรียนและเข้าใจกันมาตลอดว่ามนุษย์ในยุคหินนั้นล่าสัตว์และใช้เครื่องมือง่ายๆทำมาจากหินแต่จากการขุดค้นพบซากโบราณสถานแห่งนี้ มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า มนุษย์ในยุคนั้นมีความรู้ด้านเลขาคณิตดีมากๆอย่างน่าประหลาดใจ สามารถแกะสลักและสร้างของชิ้นใหญ่ๆ อย่างวิหารได้แล้ว รวมทั้งยังมีการวางแบบแผนและหาทำเลที่น่าประทับใจเดี๋ยววันนี้แอดมินจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
Gobekli tepe วิหารเก่าแก่ที่แรกของโลก
วิหารจากยุคหินสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองสริวฟา ในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บนยอดเนินเขา และคาดว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วง 10,000 ปีก่อนคริสตศักราช สร้างโดยมนุษย์ในยุคหิน
จุดเด่นของสิ่งก่อสร้างของที่นี่คือเสาหินสลักขนาดใหญ่ รูปตัวที วางเรียงกันเป็นวงคล้ายกับกองหินแต่ว่าที่นี่มีอายุมากกว่าถึง 6000 ปี ที่นี่นะถูกค้นพบในปี 1963 ระหว่างการสำรวจที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยอิสตันบูลและ มหาวิทยาลัยชิคาโก เพื่อสังเกตุเห็นเนินเขาที่ผิดธรรมชาติ ถูกปกคลุมไปด้วยเสร็จหินเหล็กไฟที่แตกหักหลาย 1000 ชิ้น
ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นอย่างแน่นอน แต่ยังไม่มีการศึกษาเพิ่มเติมจนต่อมาในปี 1994 มีการศึกษาอื่นในภูมิภาคนี้ โดยนักโบราณคดีชาวเยอรมัน จากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กและได้สังเกตุเห็นลักษณะที่เป็นอนุสรณ์สถาน ที่ดูไม่ธรรมดาการขุดค้นเริ่มต้นขึ้น
ในปี 1995 โดยอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของสมิธ และ 20 ปีของการขุดค้นโดยละเอียดได้ให้ผลทางวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อถือได้บ่งบอกว่าที่นี่นั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งแรกที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยคิดว่าน่าจะมีประวัติย้อนหลังไปถึงยุคหินเก่า
ที่เคยเชื่อกันมาตลอดว่ามนุษย์ดำรงชีพ ด้วยการล่าสัตว์และอพยพถิ่นฐาน ติดตามฝูงสัตว์ไปเรื่อยๆ อย่างที่กล่าวว่าสถานที่แห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของมนุษย์เกี่ยวกับวิธีการก่อสร้างและอารยเวลาที่ประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษย์ได้ก่อตัวขึ้นมานั่นเองค่ะ
นักโบราณคดียังคงพยายามที่จะไขปริศนาลึกลับ ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบการก่อสร้างวิธีการก่อสร้างและเหตุผลที่พวกเขาทำมันขึ้นมา ซึ่งยังไม่มีใครรู้เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมแต่เข้าใจว่ามันถูกสร้างขึ้น โดยกลุ่มนักล่ากลุ่มสุดท้ายที่ใกล้ชิดกับเกษตรกรรม
และการเลี้ยงสัตว์ ทั้งนี้จากการสำรวจทางธรณีวิทยา และการขุดค้นพบลุมโบราณคดีพบว่ามีวิหารอย่างน้อย 20 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนาหรือพิธีกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยมีลำดับชั้นและระบบโครงสร้างทางสังคมหรือชนเผ่าเร่ร่อน
ต่างมุ่งหน้ารวมตัวกันเข้ามา เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างยิ่งใหญ่เหล่านี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและเป็นการกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน เพราะบนชั้นเปลือกเห็นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกหินและกระดูกสัตว์สัตว์ของเสียนับหมื่นๆ รวมทั้งเนื้อทรายและกระทิงป่า วัวป่า
ที่กำลังจะสูญพันธุ์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามนุษย์ยุคหาของป่าตกอยู่ภายใต้อำนาจของหมอผีหรือว่านักบวช ที่อ้างว่าสามารถติดต่อกับเทพหรือว่าอสูรมารได้แล้ว หมอผีและนักบวชที่เคยเป็นคนส่วนน้อยแต่กลายเป็นชนชั้นสูง
พวกตนนั้นมีสติปัญญาที่สูงกว่า และได้รับมอบหมายให้ติดต่อกลับปรโลกหรือสวรรค์วิมานชั้นต่างๆจึงอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสถานที่แห่งนี้ เพื่อใช้เป็นที่ทางศาสนาเพื่อนำคนตายขึ้นสู่สวรรค์นั่นเองค่ะ
⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡ ⚡
เที่ยวนอร์เวย์ คลิก Midnight Sun
สนับสนุนโดย เว็บ 168