วันนี้แอดมินจะพาทุกท่านมาเที่ยวชม Santa Cruz del Islote เกาะที่มีคนหนาแน่นที่สุดในโลก ประเทศโคลัมเบีย ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น กลางผืนน้ำทะเล ของทะเลแคริบเบียน นอกชายฝั่งของแคว้นโบราณ ว่าทางตอนเหนือของประเทศโคลัมเบีย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12,000 ตารางเมตร หรือมีขนาดประมาณสนามฟุตบอล 2 สนาม แต่กลับมีประชากรที่อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
ถึงเกือบ 900 คน ซึ่งมีความหนาแน่นมากกว่าเกาะแมนฮัตตัน ในมหานครนิวยอร์ก ถึงสี่เท่าเลยล่ะค่ะ แต่ก่อนที่เราจะมาดูความน่าสนใจของแห่งนี้ แอดมินก็ขอฝากให้ไปติดตาม Coober Pedy กันด้วยนะคะ และในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ คาสิโนออนไลน์ ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ
Santa Cruz del Islote เกาะที่มีคนหนาแน่นที่สุดในโลก ประเทศโคลัมเบีย
ย้อนกลับไปเมื่อราว 160 ปีที่แล้วในช่วงทศวรรษที่ปี 1860 เกาะแห่งนี้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ และยังมีขนาดเล็กกว่าปัจจุบันมาก เนื่องจากเป็นเพียงเกาะห่างไกล ที่มีขนาดเล็กกว่าสนามฟุตบอลหนึ่งสนาม ที่ชาวประมง มักจะมาอาศัยพักเหนื่อย หรือหลบภายในช่วงที่เกิดพายุเท่านั้น เนื่องจากเกาะแห่งนี้นั้น ไม่มีชายหาด และถูกล้อมรอบไปด้วยปะการัง ต่างจากเกาะใกล้เคียง ที่รายล้อมไปด้วยป่าชายเลน
ทำให้เกาะแห่งนี้ไม่มียุง และยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลามากมาย ดึงดูดให้ผู้คนเริ่มย้ายมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะ สร้างบ้าน และขยายเกาะ โดยใช้สิ่งที่หาได้จากทะเล ไม่ว่าจะเป็นเปลือกหอย กะลามะพร้าว ทราย ลำต้นของต้นไม้ และแม้แต่ขยะ แม้จะมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นเกือบ 100 หลังคาเรือน แต่ผู้คนบนเกาะแห่งนี้ ต่างก็มีความเกี่ยวดองกันเป็นญาติพี่น้อง และรู้จักกันแทบทั้งหมด
ทำให้บนเกาะแห่งนี้นั้นไม่มีตำรวจ เนื่องจากไม่เคยมีอาชญากรรม หรือความรุนแรงใดๆเกิดขึ้นเลย แต่สภาพความเป็นอยู่บนเกาะแห่งนี้ก็ไม่ได้สะดวกสบายมากนัก แม้จะมีโรงเรียน โบสถ์ ร้านค้า ร้านอาหาร แต่บนเกาะก็ไม่มีทางไฟฟ้า และน้ำประปา พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะ ก็ต้องอาศัยเครื่องปั่นไฟ และแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า มีการกักเก็บน้ำฝนใส่ถังไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารการกินส่วนใหญ่
ก็มาจากสัตว์ทะเล ที่ชาวบ้านหามาได้ โดยมีการส่งน้ำดื่มสะอาด อาหาร และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ จากภายนอกเกาะ มาเพิ่มเติมให้ตามความจำเป็น นอกจากนี้บนเกาะ ก็ยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ทำให้ชาวบ้านกว่า 40% ของครัวเรือน ต้องทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไปในน้ำทะเล อีกทั้งชาวบ้านก็ยังต้องรอเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนกว่า ที่จะมีเรือเข้ามาเก็บขยะ จำนวนมากออกไปจากเกาะ
สภาพความเป็นอยู่ที่แออัด ส่งผลให้เกาะแห่งนี้นั้นไม่มีพื้นที่ เพียงพอสำหรับประกอบพิธีฝังศพ ทำให้ร่างของสมาชิกครอบครัว ที่เสียชีวิตจะต้องถูกส่งไปฝังบนเกาะใกล้เคียง แทนนอกจากการประมง ที่เป็นรายได้หลักแล้วชาวบ้านในชุมชนชาวเกาะเล็กๆแห่งนี้ ก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวหลาย 1000 คนให้แวะเวียนมา ที่เกาะแห่งนี้เพื่อสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยว
ทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างดี ในทุกปีโดยมีห้องพักเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวในราคาคืนละ 186,000 คอมโบเดีย หรือแล้วราว 1600 บาท ต่อคืนนอกจากนี้เกาะแห่งนี้นั้น ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำขนาดเล็กที่เปิดให้นักท่องเที่ยว สามารถลงไปดำน้ำแหวกว่ายกับสัตว์น้ำถิ่นเช่น เต่า ปลากระเบน และฉลามขนาดเล็กได้อีกด้วยค่ะ
🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️