วันนี้แอดมินจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ The City of Troy หรือว่าที่เรารู้จักกันในชื่อกรุงทรอยส์ในตำนานนั่นเองค่ะ เป็นสถานที่เก่าแก่อีกหนึ่งที่ที่นับได้ว่าพึ่งจะมีการค้นพบหลังจากพบว่ามีการหายสาปสุญไปแล้วแต่ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับสถานที่เก่าแก่แห่งนี้ให้มากขึ้นกัน แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม เมืองโบราณที่พึ่งถูกค้นพบ กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันได้เลยค่ะ
The City of Troy กรุงทรอยส์ในตำนานถูกค้นพบแล้ว
กรุงทรอยส์ในตำนานสู่โลกแห่งความจริง กรุงทรอยส์เป็นที่รู้จักจากสงครามครั้งใหญ่ในมหากาฬอีเลียสของโฮมเมอร์ จึงไม่แปลกที่จะคิดว่าเมืองนี้ อาจจะเป็นแค่จินตนาการ แต่ภายหลังในศตวรรษที่ 18 และ 19 ได้มีการโต้เถียงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตำนานต่างๆ เนื่องจากนักเขียนโบราณหลายคน เช่นดโฮมเมอร์มักผสมข้อเท็จจริงกับเรื่องแต่ง โดยในปี 1801 เอ็ดเวริด คลาค ได้อ้างว่าเนินเขาเตี้ยๆ
ในประเทศตุรกี คือกรุงทรอยส์โบราณ เนื่องจากเค้าพบเหรียญและจารึกบริเวณนั้น และต่อมาในปี 1868 ไพลิค อดีตนายธนาคารที่เกษียณอายุ ชาวเยอรมัน ผู้ครอบครองสำนวนมหากาพย์อีเลียส ได้ลงทุนขุดค้นสถานที่แห่งนี้ โดยการขุดค้น โดยการขุดค้นในครั้งนี้นักวิชาการได้พบว่าได้พบการตั้งถิ่นฐานที่ทับซ้อนกันถึง 10 ชั้น จึงตั้งชื่อแต่ละชั้นด้วยเลขโรมัน โดยชั้นทรายส์หนึ่ง สร้างขึ้นเกือบ 3000 ปีก่อนคริสตกาล
มีอายุประมาณ 5000 ปี ส่วนชั้น ทรอยส์ 10 หรือชั้นบนสุดคาดว่าชาวโรมันสร้างเป็นที่พักแรมสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อราว 1000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในเมืองชั้นต่างๆมักถูกทำร้ายด้วยไฟ แผ่นดินไหว และการสู้รบ ในขณะที่ขุดถึงชั้นทรอยส์ 2 ชาวโรมันได้ถ่ายรูปภรรยาชาวกรีกของเขา พร้อมกับเครื่องประดับอันงดงามแล้วก็ประกาศให้โลกรู้ว่า เค้าได้ค้นพบเมืองทรอยของโฮมเมอร์ และสมบัติผู้ปกครองกรุงทอยแล้ว
แต่ภายหลังได้มีข้อมูลเปิดเผยออกมาว่าชั้นดังกล่าวนี้มีอายุประมาณ 4000 ปีแล้ว เก่าแก่กว่ากรุงทรอยส์ของโฮมเมอร์ถึง 1000 ปี จึงไม่น่าจะใช่กรุงทรอยส์ ชั้นที่มีความเป็นไปได้คือทรอยส์ 7 ที่มีอายุประมาณ 3000 ปี ซึ่งพบหลักฐานจากชั้นนี้รวมกับชั้นทรอยส์ 6 ระบุอย่างคราวๆว่ากรุงไทยของโฮมเมอร์อาจจะรุ่งเรืองอยู่ในช่วงปลายยุคสำริด ทั้งยังพบสิ่งทอจากขนสัตว์และหลักฐานที่ว่าเฮคเตอร์วีรบุรุษสงคราม
ของทรอยส์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการเพาะพันธ์ม้า รวมถึงการค้าขายสินค้าเหล่านี้ปรากฏอยู่ในชั้นดังกล่าวด้วย จนเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องราวในงานเขียนของโฮเมอร์นั้นมีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์จริงๆค่ะ
🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰 🏰