ประเทศที่น้ำไม่ท่วม

          วันนี้แอดมินจะมาพูดถึง ประเทศที่น้ำไม่ท่วม หรือว่าประเทศเนเธอแลนด์นี่แหละค่ะ ประเทศนี้เค้าเคยถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 1953 หรือประมาณ 70 ปีที่แล้วนั่นแหละค่ะ เหตุการณ์ตอนนั้นรุนแรงมากถึงขนาดที่ว่าทำให้พื้นที่กว่า 9 แสนกว่าไร่จมอยู่ใต้น้ำเลยล่ะค่ะ เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล หลังจากนั้นเค้าก็ได้มีการพัฒนาทำให้ประเทศนี้น้ำไม่สามารถท่วมได้อีก เรื่องราวจะเป็นรอย่างไร แล้วพวกเคาได้ทำการพัฒนาแบบนั้นไอย่างไรมาติดตามรับชมเรื่องราวไปพร้อมกับแอดมินได้เลยนะคะ

🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾

ประเทศที่น้ำไม่ท่วม เนเธอแลนด์ทำแบบนั้นได้อย่างไร

ประเทศที่น้ำไม่ท่วม
โครงการ

          หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้นรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็นั่งไม่ติด ต้องมาคิดว่าพวกเขานั้นต้องทำอะไรซักอย่าง เป็นการเร่งด่วนอย่างที่แอดมินได้บอกไปนะคะ ว่าได้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 1953 แต่ที่จริงแล้วแผนงานบริหารการจัดการน้ำเนี่ย

มีการวางแผนจะทำมาก่อนหน้านั้นแล้วล่ะค่ะ แต่ก็นั่นแหละเหตุการณ์นั้นก็รุนแรงมากซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผลักดันให้โครงการนี้ได้เดินหน้าต่อไป แถมยังเกิดขึ้นจริงและเร็วด้วยภายในเวลาแค่ 20 วันหลังจากน้ำท่วมจบลงเท่านั้น หน่วยงานศึกษาจัดการสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ หรือที่มีชื่อเรียกว่าเดี๋ยวต้าก็จะถึงแบบจริงจัง

และปัญหานี้มันก็มีทางออกค่ะสรุปเอาให้ง่ายๆ ก็คือถ้ามนุษย์สามารถสร้างโครงการนี้ได้อย่างเช่นสร้างกำแพงกันคลื่น หรือว่าประตูระบายน้ำอย่างถูกต้องเหมาะสม ปัญหานั้นน่าจะเอาอยู่แน่ๆ จนในที่สุดก็เกิดโครงการนี้ขึ้นจนกระทั่งในปี 1958 ถัดมาจากหลังวันน้ำท่วมครั้งใหญ่อ่ะประมาณห้าปี กำแพงกันคลื่นแห่งแรกก็ถูกสร้างขึ้น

ประเทศที่น้ำไม่ท่วม
น้ำท่วม

และเปิดใช้งานทันทีจุดนี้มันมีความน่าสนใจตรงที่ว่า การก่อสร้างและการเปิดใช้งานนั้นมันเกิดขึ้นก่อนที่ร่างโครงการนั้นทั้งฉบับ หรือว่ามันมีการก่อสร้างบางโปรเจ็คตั้งแต่กฎหมายยังผ่านไม่หมดเลยนั่นเองค่ะ และใช้เวลานาน เพียงห้าปีเท่านั้น

สาเหตุที่ต้องทำเร่งด่วนขนาดนี้เพราะว่าเป็นการป้องกันพื้นที่ด้านในของประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดการน้ำท่วมซ้ำซากก่อนจนกระทั่งปี 1959 ประมาณหนึ่งปีหลังจากนั้น กฎหมายก็ได้ผ่านทางฉบับ กฎหมายดังกล่าวจะพูดถึงแผนงานระยะยาวในการก่อสร้างเขื่อนประตูระบายน้ำ การสถานีสูบน้ำและกำแพงกันคลื่นรวมทั้งหมด 14 โครงการค่ะ

ประเทศที่น้ำไม่ท่วม
ที่กั้นน้ำ

เบื้องต้นมีการวางงบประมาณไว้ที่ประมาณ 36,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการที่ใหญ่มากแล้วก็ท้าทายมากในยุคเมื่อประมาณ 70 ปีก่อน นอกจากจะเป็นแผนงานที่ก่อสร้างอะไรแล้วยังพูดถึงการดูแลรักษาโครงการ ให้เขาได้ทำงานทั้งในปัจจุบัน

แล้วก็ในอนาคตอีกหลัก 10 หลัก 100 ปีอีกด้วยค่ะแล้วก็ยังพูดถึงเรื่องของการเก็บภาษีจัดการน้ำด้วยซึ่งจะเป็นภาษีที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นการวางแผนที่ดีรอบครอบ รวดเร็วแถมยังมองการณ์ไกลอีกด้วยนั่นเองค่ะ

🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾 🌾

เมืองที่เป็นประตูสู่ขั้วโลกเหนือ คลิก Tromso

สนับสนุนโดย ufathai6