สุสานของราชินีเนเฟอร์ติติหายไปไหน

            วันนี้แอดมินก็จะมาพูดถึง สุสานของราชินีเนเฟอร์ติติหายไปไหน เป็นเรื่องราวที่ยังเป็นปริศนานะคะ เป้นเรื่องราวที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ เดี๋ยววันนี้แอดมินจะมาเล่าเรื่องราวให้ฟังค่ะ แต่ก่อนที่จะไปติดตามความน่าสนใจ แอดมินก็ขอฝากให้ไปติดตาม สถานที่โบราณเก่าแก่ของเปอร์เซีย กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เว็บ บาคาร่า ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿

สุสานของราชินีเนเฟอร์ติติหายไปไหน  ปริศนาโบราณ

            ราชินีเนเฟอร์ติตินั้นได้รับการกล่าวขานมานานหลาย 1000 ปีว่าพระนางนั้นเป็นเจ้าของใบหน้าที่งดงามสมบูรณ์แบบ แม้แต่ชื่อของพระองค์ก็มีความหมายว่าผู้ที่มีความงามหมดจด โดยราชินีนั้นเป็นมเหสีเอกของฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่สี่ และมีศักดิ์เป็นแม่สามีของฟาโรห์ตุตันคามุน หรือในบางทฤษฎีก็เชื่อว่าราชินีนั้นเป็นพระมารดาหรือพระมารดาเลี้ยงของฟาโรห์ตุตันคามุน แต่ถึงแม้ว่าราชินีจะมีชื่อเสียง

เป็นอย่างมาก ในอารยธรรมอียิปต์โบราณแต่ต้นตระกูลของพระนาง ก็ยังคงเป็นปริศนาค่ะไม่มีใครรู้ว่า พระบิดาและพระมารดาของราชินีนั้นเป็นใคร ทำให้เราไม่สามารถรู้ถึงต้นตระกูลของพระนางได้ บางทฤษฎีของพระนางเชื่อว่าแท้จริงแล้ว ราชินีนั้นคือเจ้าหญิงทาดูคีปา ธิดาของกษัตริย์แห่งมีธานีและในบางทฤษฎีก็เชื่อว่าพระนางอาจจะเป็นพระธิดาหรือทายาทกับฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 3 หรือก็คือพี่น้องของพระสวามี

ของตัวเองหรือไม่ก็เป็นชนชั้นสูงของชาวเธบ หรือไม่ทฤษฎีทั้งหมดนั้นก็เป็นแค่ทฤษฎีสมคบคิดเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานใด ที่สามารถยืนยันได้ว่าพระนางเนเฟอร์ติตินั้น มาจากต้นตระกูลอะไร หรือแท้จริงแล้วพระนางเป็นใครมาก่อนที่จะได้รับเป็นมหาศรีเอก นอกจากนี้สิ่งที่เป็นสิ่งเลื่องชื่อของราชินีนั้น ก็คือรูปโฉมของพระนางค่ะ ว่ากันว่าราชินีนั้นเป็นสตรีเอลบางแต่ว่ามีบ้าน และสะโพกที่หนาพระนางมักจะสวมใส่ชุด

ที่บางเบาและโปร่งแสง ทำให้พระนางดูมีเสน่ห์ยั่วยวนอยู่เสมอ จนได้รับสมญานามว่าพระพักตร์งาม ทรงความเบิกบานเป็นผู้ให้สำราญหาใครเทียม และในบางทฤษฎีก็เชื่อกันว่าราชินีนั้น มีพระสิริโฉมที่งดงามกว่าพระนางคลีโอพัตราเสียอีกค่ะ นอกจากนี้ราชินียังเป็นที่รู้จักจากการปฏิวัติทางศาสนาร่วมกับพระสวามีของเธอ ทั้งคู่ร่วมจากการเปลี่ยนพระเจ้าหลายองค์ เป็นการนับถือเทพอาเตน

ซึ่งระยะเทพขออีเพียงองค์เดียวที่เรียกว่าโมโนเทียซึม หรือเอกเทวนิยมซึ่งการเปลี่ยนแปลงนะคะ นี้สร้างความโกรธแค้นให้กับเหล่านักบวชดังเดิม เพราะนอกจากที่ฟาโรห์จะรวมการปฏิวัติศาสนา แล้วทั้งคู่ยังได้มีการบัญชาให้มีการปิดวิหารเทพเจ้าอื่นที่ไม่ใช่เทพอาเต็มลบรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ในวิหารเอารูปเทพอาแตนเข้าไปตั้งแผนที่สมบัติต่างๆภายในวิหารเพื่อเป็นการบังคับให้ประชาชนกราบไหว้บูชา

และด้วยเหตุนี้ทำให้ภาพของราชินีนั้น ตามวันและวิหารถูกลบพระพักตร์ออกซึ่งเป็นการกระทำ จากความโกรธแค้นของประชาชน ที่อยากจะลบพระนามออกจากประวัติศาสตร์ และอารยธรรมอีโบลา จนทำให้แม้แต่สาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระนางก็ยังเป็นเรื่องลึกลับ แล้วในปัจจุบันเราก็ยังไม่ทราบเลยนะคะ ว่ามัมมี่และหลุมศพของราชินีนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿 🗿