วันนี้แอดมินก็จะพาทุกท่านมาอัพเดตการกิน ช็อป เที่ยว เมือง Namba เมืองอาหารอร่อยในโอซาก้า บอกเลยว่าของถูกและดีเนี่ย เยอะมาก ลดราคากันแบบอย่างโหด แล้วก็เดินไม่ไกลจากกูลิโกะด้วยนะคะ ใครที่กำละงมีแพลนอยากไปเที่ยวโอซาก้าจดไว้ได้เลยค่ะ เพราะว่าทั้งหมดที่แอดมินจะพาทุกท่านมาเที่ยวในวันนี้ตั้งต้นที่สถานีนัมบะ สามารถเดินทางไปได้ทั้งหมดเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Orange Street ย่านที่เป็นย่านชิค
คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะย่านนี้ บอกเลยว่าคาเฟ่ดีๆเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักแล้วอัพเดตกันในปี 2024 นี้ แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม หมู่บ้านสวยๆ ในต่างประเทศ กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ betflik68 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย
Namba เมืองอาหารอร่อยในโอซาก้า ช็อปสนุกสุดๆ
นอกจากย่าน Orange Street ที่แอดมินได้พูดถึงไปแล้ว ก็ยังมีย่าน Amerika-Mura เป็นย่านที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้ามือสอง ใครสายนี้ต้องไม่พลาดเลยค่ะ รับรองว่าถูกใจกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีย่าน Shinsaibashi-Suji ใครสายรองเท้าเนี่ย ต้องมาย่านนี้เลยค่ะ รวมถึงของกินต่างๆ ที่หลายคนไม่เคยกินในย่านนัมบะ อัพเดทให้ทุกคนเอาไว้แล้วค่ะ ตอนนี้มาเที่ยวญี่ปุ่นนี่อย่างชิวเลยนะคะ เพราะว่าค่าเงินประเทศญี่ปุ่นเนี่ย เรียกได้ว่าถูกที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลยค่ะ
คือแทบไม่ต้องแลกตังค์มาเลยค่ะ เพราะว่าเค้าเป็นสังคมแคสเลสแล้วใช้จ่ายผ่านบัตรกันหมดแล้วค่ะ ตั้งต้นกันด้วยตรงกูลิโกะ คือสถานีนัมบะ ใครมาเที่ยวโอซาก้าพักย่านนี้ ก็คือมีครบทุกอย่างเลยนะคะ ของกิน ของช็อป ของเที่ยวตรงนี้ ก็จะมีสะพานข้ามผ่านคลอง แบ่งเป็นสองฝั่งด้วยกันค่ะ เรียกง่ายๆว่า เป็นย่านของช็อปกับของกินแต่ละคนบอกว่า
ช็อปแถวนี้ของมันไม่ค่อยเฟี้ยวเลย แต่ว่าย่านนี้มันจะทัวร์ลิสต์แบบจัดๆ เราเดินเป็นสี่เหลี่ยมแบบนี้ จากย่านกูลิโกะ เราจะเดินไปย่าน Shinsaibashi-Suji ก่อนย่านนี้ช้อปปิ้งมันกว่า ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เดินมาแค่ประมาณ 5 ถึง 10 นาทีเท่านั้น จากตรงกูลิโกะ ซึ่งแถวนี้ก็จะมีแบรนด์ดีๆเยอะกว่านะคะ ของเยอะกว่า เสื้อผ้า รองเท้า แล้วก็คนน้อยกว่าด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสาขาใหญ่เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ แล้วก็ช่วงนี้เนี่ย
ค่าเงินญี่ปุ่นคือ 0.24 ถูกสุดๆเลยค่ะ เพราะว่าปีที่แล้วประมาณ 0.28 ถ้ามาแถวนี้ก็อย่าลืมพกพาสปอร์ตมากันด้วยนะคะ เพราะว่าแทบทุกร้านมีแท็กฟรีหมด แล้วแท็กที่ญี่ปุ่นคือ 10% เลยค่ะ เสื้อผ้า รองเท้า ร้านขายยา มีเต็มไปหมดเลย มีร้านมือสองด้วย แล้วตึกรามบ้านช่องแถวนี้มาดูวัยรุ่นกว่า แถวกูลิโกะมันจะมีความอาม่าเยอะอะไรประมาณนี้ค่ะ
ตรงนี้เหมาะสำหรับซื้อเสื้อผ้า มีหลายร้านเลยค่ะ รวมถึงร้านของมือสองเฟี้ยวๆที่ญี่ปุ่นเนี่ย ร้านมือสองเค้าคัดแบรนด์ดีๆมาเต็มเลยค่ะ แล้วก็ราคาถูก แต่เราจะยังไม่ช็อปที่ย่านนี้นะคะ เราจะมากันที่ Amerika-Mura กันค่ะ ซึ่งก็มาง่ายนะคะ ก็แค่ข้ามฝั่งถนนมาจาก Shinsaibashi-Suji เดินมานิดเดียว เราจะเห็นร้านมือสองชิคๆเนี่ยเต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ
เต็มขนาดที่ว่าดูด้วยตาเปล่าเนี่ย น่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ร้านนะคะ ที่นี่เป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดฮิตของชาวโอซาก้าเค้านะคะ ตรงนี้มีเป็นห้างด้วยนะคะ แล้วก็ส่วนใหญ่ไปร้านมือสอง แล้วอีกอย่างก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า รองเท้า ที่ลดราคาเยอะมาก ลดโหดมาก พวกที่ลดราคาเยอะๆเนี่ย เค้าจะตั้งเอาไว้หน้าร้านเลยค่ะ บางรุ่นก็จะไม่มีขายในช็อปด้วยนะคะ
มาจากสายหิ้วมือไวทั้งนั้นเลย แล้วแอดมินก็มาเจอร้านนี้ ต้องหัวมุมถนนค่ะ บอกเลยว่ารถเยอะมากรถถึง 50% เลยมี 70% ด้วยนะคะ วางอยู่หน้าร้าน ถ้าเปรียบเทียบกับเกาหลีก็เหมือนฮงแดเลยค่ะ วัยรุ่นเยอะ แล้วก็ตรงนี้มีอีกอย่างนึงที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ทาโกยากิ เพราะว่าทาโกยากิที่นี่ได้มิชลินเลยนะคะ วัยรุ่นญี่ปุ่นเนี่ยหันมาซื้อแฟชั่นมือสองค่อนข้างเยอะ ถูกกว่ามากเลยนะคะ แล้วก็บางทีเบื่อก็คือขายต่อมันคงไม่เป็น
ของมือสองมันเป็นของมือสองอยู่ดี ต่อไปจะเป็นถนนที่ชิคที่สุดในโอซาก้านะคะ ชื่อว่า Orange Street เดินต่อมาประมาณ 10 นาที ระหว่างเดินเจอตึกสีสัน มีร้านไอติมบราซิล ไอติมของโอกินาวาด้วย ร้านโดยรวมก็จะดูน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะคะ มีร้านขายกระเป๋านักเรียน บอกเลยว่ากระเป๋านักเรียนที่นี่เนี่ยน่ารักมาก ออกแบบมาให้รองรับสรีระของเด็ก
แล้วก็เวลาลื่นล้มหงายหลัง กันหัวกระแทกด้วยค่ะ รวมถึงเป็นชูชีพเวลาตกน้ำด้วยนะคะเป็นความญี่ปุ่นที่น่ารักมากเลยค่ะ ระหว่างเดินเราก็จะเจอร้าน ที่ชิคขึ้นเรื่อยๆเป็นโลคอลช็อปเป็นโลโก้แบรนด์ต่างๆ มีร้านกระต่ายที่น่ารักดีค่ะ เป็นสตรีแบรนด์ มีสวนสาธารณะ เราจะสังเกตได้เลยว่า มันจะเงียบ
ลงไม่เหมือนกับย่าน Shinsaibashi-Suj iแล้วก็ Amerika-Mura อีกต่อไป ทั้งที่อยู่ใกล้กันเพราะว่าย่านนี้ เปรียบเสมือนกับย่านอารีย์ของกรุงเทพเลยค่ะ แล้วเราก็เดินมาถึงแล้วค่ะ ย่าน Orange Street ซึ่งที่นี่เป็นถนนครีเอทีฟของโอซาก้าเขา แล้วคนญี่ปุ่นก็จะเรียกว่าย่านฮิเอะจิวะถนนจะยาวประมาณ 800 เมตร ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ด้วยคอนเซ็ปจากทั้งนั้นเลยค่ะ เรามาเจอร้านนี้เป็นร้านแรกนะคะ เป็นร้านขายจักรยานที่น่ารักมากเลยค่ะเมื่อก่อนนี้เนี่ยคนไทยฮิตมากเลยนะคะ โตเกียวไบค์
ที่มีร้านจักรยานเพราะว่าย่านนี้เราจะเห็นว่า คนประมาณ 80% ของที่นี่นะคะเค้าจะปั่นจักรยานมากัน พอแหงนหน้ามาก็จะเห็นแล้วว่ามีคำว่า Orange Street อยู่ทั่วถนนนี่แหละค่ะ แต่ละร้านก็จะน่ารักมากเลยค่ะถนนเล็กๆ แล้วก็ไม่ได้ขายแค่เสื้อผ้าอย่างเดียวนะคะ ขายพวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่บอกเลยว่าน่ารักมาก มีทั้งหลากหลายสไตล์
มีทั้งวินเทจ พวกโซฟาแฮนด์เมดต่างๆ เฟอร์นิเจอร์แฮนด์เมด ถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงาม และอันนี้ก็สามารถมาถ่ายรูปเล่นได้ด้วยนะคะ แต่ใครอยากได้ก็มีบริการส่งไทยได้เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ยากแล้ว ระหว่างทางก็จะมีร้านขนมกาแฟ คาเฟ่ ที่สวยกว่าร้านอื่นของมือสอง ก็ยังคงมีขายอยู่แถวนี้เหมือนกันนะคะ เดินออกมาเจอคลองก็สามารถนั่งเรือได้ด้วยนะคะ นั่งเรือชมเมืองของเค้า เหมือนทัวร์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ
ส่วนย่านของกิน ให้เรามองตรงไปป้ายกูลิโกะไว้ค่ะ ถ้าใครอยากมาถ่ายแลนด์มาร์คแนะนำว่าให้มาช่วงเย็นเลยนะคะ เพราะว่าแสงจะลงมาพอดี ถ่ายสวยมากๆ ตรงกับระหว่างตึกพอดีเลยค่ะ หรือถ้าอยากมาตอนเช้าก็ให้ไปถ่ายอีกฝั่งนึงค่ะ แต่มุมบนสะพานนี้เนี่ย คนจะเยอะมากๆ และอย่างที่เรารู้กันนะคะ ว่าเมืองนี้เนี่ย ยิ่งดึกคนยิ่งคึกคื้น คนเยอะมากๆเลยค่ะช่วงดึกๆ ยังไงก็มาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ
ก่อนจากกัน แอดมินก็ต้องขอฝากเว็บไซต์แนะนำ ที่เที่ยว สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลน หรือว่าอยากได้แนวทางการท่องเที่ยวเอาไว้ด้วยนะคะ