potala palace

            potala palace หากพูดถึงพระราชวังในฝั่งของยุโรปแล้ว ในฝั่งของเอเชียกลางก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ค่ะ แถมยังได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และศิลปะของทิเบต ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 1300 ปี เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมโบราณ และยังเป็นแหล่งรสวบรวมวัตถุทางวัฒนธรรมมากกว่า 1 แสนชิ้นเลยล่ะค่ะ ซึ่งวันนี้แอดมินก็จะมาพูดถึงความยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ให้ทุกท่านได้ชมกมกันค่ะ ว่าจะมีอะไร และน่าสนใจอย่างไรบ้าง

potala palace พระราชวังของทิเบต

potala palace
เปิดให้ท่องเที่ยวตอนกลางวัน

            กรุงลาซานครหลวงของทิเบต เป็นดินแดนซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหลังคาของโลก ด้วยคำว่าลาซานั้น หมายถึงที่พักของเหล่าเทพ และได้รับเลือกจากกษัตริย์ทิเบต ให้ที่นี่เป็นเมืองหลวงของรัฐ ขณะที่ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ มีชื่อว่าฟูโจ ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 3600 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง แถมยังคับคลั่งไปด้วยร้านค้า และมีหนทางที่คดเคี้ยว ที่แม้แต่ชาวตะวันตกที่น้อยคนจะรู้ว่ามีเมืองนี้อยู่

และเป็นที่ตั้งของพระราชวังโปตาราอันมหึมานั่นเองค่ะ พระราชวังแห่งนี้เป็นทางป้อมปราการ และสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัย ของโกจันทร์ตาโปร ปฐมกษัตริย์แห่งจักรวรรดิทิเบตพระราชวังแห่งนี้ ได้ชื่อมาจากภูเขา ที่นี่พระโพธิสัตว์เอาโลกิเตศวรปรากฏตัวครั้งแรก

ซึ่งถือเป็นส่วนรวมของความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของผู้รู้แจ้ง หรือพระพุทธเจ้านั่นเองค่ะ ส่วนรอบเมืองนั้นเป็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลคดเคี้ยวที่ลุ่มชื้นแฉะ แนวต้นบ่อปลา ไร่ถั่ว แถมยังมีทุ่งข้าวบาเล่ล้อมรอบหมู่บ้าน ถัดจากที่ราบไปแล้วเป็นเทือกเขาสูงชัน ยากที่จะเข้าไปถึงค่ะ และนี่ก็น่าจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโปตารา ประกอบกับสีขาวนวลที่ฉาบทามาแต่โบราณ และสีเทาส่องประกาย

ทำให้เมืองแห่งนี้ดูงดงามมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งคำว่าโปตารา มาจากภาษาสันสกฤต ซึ่งมีความหมายว่าพุททะบัณฑิต ซึ่งการก่อสร้างนั้นต้องใช้คนงานกว่า 7000 คน มีความสูงเหนือพื้นดินถึง 110 เมตร และวัดจากด้านหนึ่งไปจะลดอีกด้านหนึ่งยาวกว่า 300 เมตร ถือเป็นตัวอย่างอันล้ำเลิศแห่งสถาปัตยกรรมทิเบต

วังแห่งนี้สง่ายิ่งขึ้นเมื่อเห็นกำแพงที่ใหญ่โต สร้างขึ้นให้สอดเข้ากับหน้าต่าง ซึ่งเรียงเป็นแนวขนานอย่างเป็นระเบียบตลอด จนกรอบหน้าต่างทาด้วยสีดำ ส่วนหลุมใหญ่ข้างหลังวังนั้นเกิดขึ้นเพราะการขุดหินไปก่อสร้างมีน้ำขังกลายเป็นบึงพยามังกรในปัจจุบันนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้เมืองแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธมหานิกายลามะอีกด้วยนะคะนับตั้งแต่ปี 1391 จนถึงเมื่อจีนเข้ายึดครองในปี 1951 ดาไลลามะมีฐานะในการปกครองทิเบตทรงอำนาจทั้งฝั่งอาณาจักรและศาสนาจักร แม้ในช่วงปี 1717 ถึง 1911 ทิเบตนั้นมีฐานะเป็นเพียงประเทศราชของจีนเท่านั้น

นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของพุทธะมหานิกายลามะที่ผสมความเชื่อพื้นเมืองที่เรียกว่า ทางนี้เมื่อก่อนนี้ถือเป็นวัดที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับพระภิกษุสงฆ์ โดยในวังข่าวนั้นมีสำนักงานโรงเรียน ศาสนาและโรงพิมพ์ซึ่งใช้แผ่นพิมพ์ไม้กระดาษ ทำมาจากเปลือกไม้

ซึ่งเป็นไม้หุ้มชนิดหนึ่งออกดอกเป็นช่อ หรืออาจใช้เปลือกไม้ชนิดอื่นก็ได้มีการนำเปลือกไม้นั้นมาแช่น้ำแล้วใช้หินบดให้ละเอียด ต่อจากนั้นแผ่ออก บนตะแกรงลวด แล้วตากให้แห้งก็จะได้กระดาษสีนวลเนื้อแข็งเอาไว้เพื่อใช้เขียนคัมภีร์นั่นเองค่ะ

🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞 🌞

พระราชวังที่เป็นฐานทัพผู้นำรัสเซีย คลิก kremlin palace