Namibia

Namibia เมื่อกล่าวถึงทะเลทรายแน่นอนว่าจินตนาการที่ตามมาของคนส่วนใหญ่ ย่อมคิดถึงแหล่งรวมความร้อนและความแห้งแล้ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับทะเลทรายแห่งนี้นั้น มีอีกหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะแหล่งแห่งความตายและความเกิดใหม่ รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ให้เราได้ไปเที่ยวชม ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกับแอดมินเลยค่ะ

Namibia ทะเลทรายสีแดง

Namibia
ถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยว

            นอกจากนี้ทะเลทรายแห่งนี้ ยังเป็นทะเลทรายสีแดงที่มีความเก่าแก่ และแห้งแรงที่สุดในโลก เมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลทรายสีแดง อีกทั้งยังแห้งแล้งมาก และด้วยพื้นที่โล่งกว้างและแห้งแล้งแห่งนี้นั้น จึงไม่เอื้อต่อชีวิตขนาดใหญ่ โดยทะเลทรายแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของแอฟริกา

ตั้งแต่ชายแดนทางทิศเหนือไปจนจรดแม่น้ำโอเลต ทางทิศใต้มีความยาวประมาณ 2100 กิโลเมตรและมีช่วงกว้างตั้งแต่ 80 ถึง 160 กิโลเมตร ทะเลทรายแห่งนี้ต่างจากทะเลทรายทั่วไปด้วยเหตุที่ว่า แม้มีแสงอาทิตย์แพทย์เผาให้ร้อนระอุอยู่ตลอดเวลา แต่ราวทุกๆ 10 วันหมอกจากทะเลจะลอยเข้ามา

และกลายเป็นหมอกน้ำค้างหนาทึบปกคลุมพื้นที่จนไม่สามารถมองทะลุไปได้ ในคริสตศักราชที่ 1850 เมื่อเชาว์ แอนเดอร์สัน นักสำรวจชาวสวีเดน เดินทางมาพบพื้นที่กว้างใหญ่ ทีไร้พืชพรรณและเต็มไปด้วยเนินทรายและมีหมอกปกคลุมมองดูน่ากลัวกว่านี้ เค้าบันทึกไว้ว่าไม่มีบริเวณใดอีกแล้วในโลก

ที่ทำให้เห็นภาพดินแดนแห่งขุมนรกที่ชัดเจนเท่าที่นี่ ทันทีที่เห็นสภาพวังเวง น่ากลัวนี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกสถานแทบจะเสียขวัญผู้ใดที่ถูกเนรเทศมาอยู่ที่เธอเช่นนี้ย่อมยอมตายเสียดีกว่านั่นเองค่ะ

แม่น้ำคูเซฟ ซึ่งไหลออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก เทลอาวีฟแบ่งทะเลทรายแห่งนี้ออกเป็นสองส่วน ทางด้านใต้พื้นทรายอันกว้างใหญ่ มีเนินทรายสลับร่องกว้าง ซึ่งมองเห็นเป็นแนวเส้นขนานที่มีระยะห่างสม่ำเสมอ ภายใต้เนินทรายเป็นชั้นกรวดเก่าแก่มาก ซึ่งซ่อนขุมทรัพย์ไว้เบื้องล่าง คือแหล่งเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทั้งนี้เกาะแห่งนี้จะก่อตัวขึ้นประมาณ 1ล้านปีที่แล้ว กล่าวกันว่าน่าจะมีกระแสน้ำอันเชี่ยวพัดพาเพชรที่ปนมากับกรวดผสมลีนมากมาย จากบริเวณรอบเมืองคิมเบอร์ลี่ในแอฟริกาใต้ และไหลลงสู่ทะเล

ขณะที่ตรวจจำลองที่ก้นทะเลส่วนที่เป็นเพชรจะถูกกระแสน้ำชายฝั่งซัดขึ้นไปทางเหนือ และมาสะสมตัวที่บริเวณใช้ฟังทะเลนามิเบีย และถูกปิดทับด้วยโคลนเลน และทรายละเอียดจากลุ่มแม่น้ำออเลนจ์

นอกจากนี้ยังจัดว่าเป็นแหล่งแห่งความตายนและแหล่งเกิดใหม่ พื้นทีท่างเหนือของแม่น้ำควีเซฟนั้น มีลักษณะเป็นที่ราบกรวดหิน และทางทิศตะวันตกติดชายฝั่งทะเล และเต็มไปด้วยภัยอันตราย จึงทำให้ทะเลทรายที่จรดฝั่งทางนี้มีชื่อเรียกที่น่ากลัวมากว่า ชายฝั่งโครงกระดูกนั่นเองค่ะ

🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵 🌵

เป็นประเทศไม่ใช่เกาะ คลิก Maldives